กลอนแปด
กลอนแปดคณะหนึ่ง จะมี 4 วรรค ทุกวรรคมีแปดคำวรรคแรก เรียกว่า วรรคสดับ
วรรคสอง เรียกว่า วรรครับ
วรรคสาม เรียกว่า วรรครอง
วรรคสี่ เรียกว่า วรรคส่ง
อ่านเป็นสามตอนในทุกวรรค สามคำ สองคำ และสามคำ ทั้งมีกำหนดสัมผัสด้วย
กลอนแปดนั้นไม่บังคับวรรณยุกต์ บังคับแต่รูปสระ
กลอนแปดสุภาพ
ส่วนกลอนแปดสุภาพนั้นเหมือนกลอนแปดทั่วไป แต่จะเพิ่มบังคับรูปวรรณยุกต์ไว้
จะลองเขียนร่างแผนผังดู๐๐๐ ๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐ ๐๐สุภาพ ( วรรคสดับ – วรรครับ )
๐๐๐ ๐๐ ๐๐สุภาพ ๐๐๐ ๐๐ ๐๐สุภาพ ( วรรครอง – วรรคส่ง )
๐๐๐ ๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐ ๐๐สุภาพ ( วรรคสดับ – วรรครับ )
๐๐๐ ๐๐ ๐๐สุภาพ ๐๐๐ ๐๐ ๐๐สุภาพ ( วรรครอง – วรรคส่ง )
แต่ทีนี้ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ จึงขอยกภาพจากอินเตอร์เนตแล้วปรับเติมนิดหน่อย ดังนี้ค่ะ
คำประพันธ์ ที่ต่อท้ายว่า “สุภาพ” นับว่าเป็นคำประพันธ์ที่แสดงลักษณะเป็นไทยแท้ ด้วยมีข้อบังคับในเรื่อง รูปวรรณยุกต์
ในกลอนสุภาพนอกจากมีบังคับเสียงสระเป็นแบบแผนเช่นกลอนปกติแล้ว ยังบังคับรูปวรรณยุกต์เพิ่ม จึงมีข้อจำกัดทั้งรูปและเสียงวรรณยุกต์
ดังตัวอย่าง :-
(วรรคสดับ) (วรรครับ)
จะออกปากฝากรักก็ศักดิ์ต่ำ กลัวจะซ้ำถมทับไม่นับถือ
(วรรครอง) (วรรคส่ง)
ถึงยามนอนร้อนฤทัยดังไฟฮือ ชมแต่ชื่อก็ค่อยชื่นทุกคืนวัน
(วรรคสดับ) (วรรครับ)
เวลาหลับคลับคล้ายไม่วายเว้น ได้พบเห็นชื่นใจแต่ในฝัน
(วรรคสรอง) (วรรคส่ง)
ขอฝากปากฝากคำที่รำพัน ให้ทราบขวัญนัยนาด้วยอาวรณ์
ตามธรรมเนียมแต่โบราณนั้นการแต่งกลอนต้องไม่เป็นระลอกทับ ระลอกฉลอง เพราะเป็นแบบที่บกพร่อง
- ระลอกทับ หมายถึงการมีรูปวรรณยุกต์เอกหรือโทในคำสุดท้ายของวรรครับและวรรครอง
- ระลอกฉลอง หมายถึงรูปวรรณยุกต์เอกหรือโทในคำสุดท้ายของวรรคส่ง
- นั่นคือทั้ง วรรครับ วรรครอง และ วรรคส่ง นั้น, คำสุดท้าย ต้องไม่ลงด้วยเสียงวรรณยุกต์เอก หรือ โท
- ในเรื่องเสียงวรรณยุกต์ที่บังคับ จะเน้นว่าเสียงที่ส่งสัมผัสสระถึงกันทั้งวรรครับ วรรครอง และวรรคส่ง จะต้องไม่ซ้ำเสียงวรรณยุกต์ด้วย ถ้าซ้ำถือว่าไม่เป็นรสกลอน1
คำประพันธ์กลอนสุภาพนิยมเล่นกันมากตั้งแต่สมัยอยุธยา จวบจนถึงปัจจุบัน ในต้นรัตนโกสินทร์นั้นงานกลอนสุภาพเด่นชัดในรัชกาลที่ ๒ ซึ่งเฟื่องฟูถึงขนาดมีการแข่งขันต่อกลอนสด กลอนกระทู้ ตลอดรัชสมัยมีผลงานออกมามากมาย เช่น กลอนโขน กลอนนิทาน กลอนละคร กลอนตำราวัดโพธิ์ เป็นต้น บทพระราชนิพนธ์เรื่อง เงาะป่า ก็เกิดขึ้นในยุคนี้ ยังมีกวีท่านอื่นที่มีชื่อเสียง เช่น สุนทรภู่ เป็นต้น และในสมัยรัชกาลที่ ๖ ก็มีปราชญ์กวีทางกลอนสุภาพที่สำคัญหลายท่านเช่นกัน
ทีนี้ก็ลองแต่งดูตามความรู้ที่ได้ ดังนี้ :-
อันกลอนแปด สุภาพ ตามภาพวาด อ่านสามตอน ระบุกราด ทุกวรรคหนาวรรคสดับ วรรคแรก ทิ้งฟัดมา …………คำที่สาม หรือห้า วรรครับครัน
คำสุดท้าย วรรครับ ส่งไปปราด ………..วรรครองฟาด คำที่แปด อย่าเหหันคำสามหรือ คำห้า วรรคส่งพลัน ……….คำท้ายดั้น วรรคส่ง ส่งต่อไป
อีกอย่าลืม เรื่องเสียง วรรณยุกต์ คำที่แปด กระตุก สามวรรคไขรับ-รอง-ส่ง ห่อนรูป แม้เสียงใด ………..วรรณยุกต์ อย่าใส่ บังคับคำ
สามัญสูง สามวรรค เสียงไม่เหมือน อย่าแชเชือน กลอนสุภาพ ภาพงามขำทั้งสัมผัส สระ อย่างประจำ ……………..เขาจักร่ำ ระบือ ชื่อกลอนดี
สัมผัสใน ควรคง ไว้บ้างเถิด เพิ่มไพเราะ ล้ำเลิศ เกิดศักดิ์ศรีการใช้คำ เลือกใช้ อย่างกวี ……………คำสูงต่ำ เหมาะที่ ไม่ปนเอย.
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น